2035 : โรควุ้นในตาเสื่อม (eye floater)
|
วุ้นตาเป็นส่วนประกอบของนัยน์ตามีลักษณะเป็นวุ้นใสอยู่หลังต่อเลนส์ตาหน้าต่อจอประสาทตา โดยจะยึดติดกับผิวของจอประสาทตา
ในภาวะปกติวุ้นตาจะประกอบด้วยเส้นใยคอลลาเจนและกรด hyaluronic ซึ่งทำหน้าที่ยึดเส้นใยคอลลาเจนไว้ด้วยกันทำให้วุ้นตามีลักษณะเป็นเจล แต่ ในคนสูงอายุกรด hyaluronic จะสลายตัวทำให้วุ้นตาเหลวเป็นน้ำและหดตัวลง เส้นใยคอลลาเจนจะมารวมตัวกันเกิดเป็นตะกอนขุ่นในวุ้นตา ส่งผลให้ผู้ป่วยมองเห็นเป็นจุดหรือเส้นสีดำคล้ายหยากไย่ลอยไปมา โดยเฉพาะเวลากลอกตาและเวลามองไปที่ผนังสีขาวหรือท้องฟ้า ตะกอนเหล่านี้จะคงอยู่ในวุ้นตาตลอดไปโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ในระยะแรกผู้ป่วยจะสังเกตเห็นตะกอนเหล่านี้ได้ง่ายแต่เมื่อเวลาผ่านไปสมองจะ เกิดการเรียนรู้และละเลยภาพ ทำให้ผู้ป่วยมองเห็นตะกอนเหล่านี้ลดลง นอกจากนี้การมองเห็นจุดสีดำลอยไปมา อาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่เป็นอันตรายจำเป็นต้องรับการรักษาโดยเร็วได้แก่ ภาวะเลือดออกในวุ้นตา, เซลล์เม็ดสีรั่วผ่านรูฉีกขาดที่จอประสาทตา เป็นต้น
เมื่อวุ้นตาเหลวตัวและหดตัวยังส่งผลให้เกิดแรงดึงรั้งที่ผิวของจอประสาทตา ทำให้เกิดการกระตุ้นให้เห็นแสงคล้ายแสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูป หรือแสงฟ้าแลบในตา แสงแฟลชนี้จะลดความถี่ลงและหายไปเมื่อวุ้นตาร่อนตัวจากจอประสาทตาอย่าง สมบูรณ์ แต่ในบางรายแรงดึงรั้งที่เกิดขึ้นอาจทำให้จอประสาทตาเกิดการฉีกขาดซึ่งหาก ทิ้งไว้อาจทำให้เกิดภาวะจอประสาทตาหลุดลอก ส่งผลให้ผู้ป่วยสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้
สำหรับอาการ วุ้นในตาเสื่อม เป็นโรคที่ไม่มีการรักษา ทั้งในประเทศไทย และ ต่างประเทศ ปกติแนะนำตรวจจอประสาทตาเป็นระยะ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เกิดขึ้น การยิงเลเซอร์ ไม่ได้เป็นวิธีการรักษาโรควุ้นในตาเสื่อม แต่อาจเป็นการรักษาภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจเกิดตามหลังภาวะวุ้นในตาเสื่อม เช่น จอประสาทตาฉีกขาด หรือ จอประสาทตาหลุดลอก
ที่มาและข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.eyebankthai.com/ind...le=64&keyword=&catid=5
http://www.lasikadvanced.com/webboardtopic.php?mid=1369
|
|
news
2009-11-13 12:13:24 117.121.208.***
stat :
18 posts ,
16 replys
|