1994 : นักหวดโจ๋ ฟิตสู่แชมป์
|
คอลัมน์ สดจากเยาวชน
นักกีฬาแบดมินตันวัย 9-13 ปี วิ่งไปมาตี-รับลูกขนไก่อยู่กลางคอร์ตด้วยความมุ่งมั่น ระหว่างเข้าร่วมกิจกรรม การเรียนรู้ด้วยคุณค่าของการให้และการรับ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จ ในกีฬาแบดมินตัน
งานนี้ อาจารย์เบิ้ม นายชลาชัย สงวนแก้ว อดีตนักกีฬาทีมชาติไทย ผู้ฝึกสอนของสโมสรบีจี สปอร์ต เล่าว่า จากประสบการณ์ในวงการแบดบินตันไทยมากว่า 14 ปี มีความคิดว่าจะสอนและฝึกฝนให้เด็กอยากเล่นแบดมินตัน และเล่นเพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ สามารถเข้าไปแข่งขันในระดับชาติและต่างประเทศได้ ซึ่งต้องใช้ทั้งประสบการณ์ ศึกษาความผิดพลาด และนำแนวทางการสอนของต่างชาติมาปรับใช้
ผมจะใช้ระบบน็อกเกอร์ คือการใช้ผู้ฝึกสอนมาตีให้เด็กเพิ่มเติมนอกเหนือจากชั่วโมงเรียนปกติ การเริ่มเล่นแบดบินตันควรเริ่มตั้งแต่อายุยังน้อย ประมาณ 5 ขวบก็เริ่มได้แล้ว มีโปร แกรมการฝึกซ้อมทุกวัน วันละ 4 ชั่วโมง เพิ่มการฝึกซ้อมให้หนักขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละเดือน เด็กที่มาเรียนบางคนรับโปรแกรมนี้ไม่ได้ก็มี
เด็กที่สามารถฝึกซ้อมแบบก้าวกระโดดได้ ควรมีคุณสมบัติหลักคือมีโครงสร้างร่างกายและกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ใจนิ่งมั่นคง มีทักษะไหวพริบที่ดี เป็นผู้นำ อยากท้าทาย มีโภชนาการที่ดี นอนพักผ่อนเพียงพอ และความสูง
ถ้ามายืนในตำแหน่งมือวางอันดับต้นๆ ระหว่าง 1-4 ได้แล้ว ก็ต้องมาดูอีกว่าจะเป็นแชมป์ อันดับ 1 ได้หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่ว่าเด็กมีวุฒิภาวะและความฉลาดที่โดดเด่นออกมาหรือไม่ ไม่ใช่เพียงแต่การฝึกซ้อมหนักเพียงอย่างเดียว การสร้าง แชมป์แต่ละรุ่นจึงไม่ง่ายนัก เพราะต้องอาศัยระยะเวลา
น้องชัญชิตรา จูเจริญ วัย 11 ขวบ ชั้นป.6 โรงเรียนเจริญผลวิทยา จากสโมสรบีจีสปอร์ต เริ่มเข้าวงการด้วยอายุเพียง 6 ขวบ ได้แชมป์ครั้งแรกเมื่ออายุ 9 ขวบ โดยคุณพ่อชักชวนให้มาออกกำลังกาย เพราะไม่อยากให้อ้วน ตีไปตีมาเริ่มสนุก ทั้งยังได้เพื่อนเพิ่ม
ความใฝ่ฝันของหนูคืออยากติดทีมชาติ จึงต้องฝึกซ้อมในแต่ละวันอย่างหนัก เชื่อฟังทั้งโค้ชและคำแนะนำจากคุณพ่อเพื่อพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นในทุกๆ วัน
การแข่งขันในแต่ละครั้งต้องวางแผนและ เตรียมตัวอย่างดี ถ้าครั้งใดแพ้คุณพ่อจะบอกว่าให้จำบทเรียนครั้งนี้ไว้ เพื่อนำไปพัฒนาให้ดีขึ้นในครั้งหน้า ถึงเวลาซ้อมต้องตั้งใจ และต้องพัฒนาตัวเองตลอด เรื่องการเรียนก็ไม่ทิ้ง จะทำการบ้านก่อนซ้อมทุกวัน โดยมีคุณพ่อช่วยดูแลให้ เสร็จแล้วจึงไปซ้อมใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในทุกๆ วัน
น้องกันตภณ หวังเจริญ วัย 11 ขวบ ชั้นป.5 โรง เรียนเซนต์คาเบรียล จากสโมสรทีไทยแลนด์ มือวางอันดับ 2 ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจสูง เล่าว่าตอนแรกมาเรียนเพื่อออกกำลังกายตอนอายุ 7 ขวบ ได้แชมป์ตอนอายุ 11 ขวบ ชนะครั้งแรกดีใจมาก อยากตีต่อ โค้ชบอกว่าครั้งต่อไปต้องพยายามทำให้ดีกว่านี้ คุณพ่อคุณแม่สนับสนุนและให้กำลังใจตลอดเวลา รวมถึงคุณตาที่ดูแลเรื่องอาหารการกินด้วย
เป้าหมายเพื่อความ สำเร็จต้องมีระเบียบวินัย ตรงต่อเวลาในการฝึกซ้อม มีความสามัคคีในทีม ที่สำคัญจะเอาทักษะการสอนจากโค้ชมาปรับใช้ โดยจะแนะนำกลยุทธ์เล่นเกมเชิงรุก บุกให้เยอะๆ ตีอย่างไรให้ได้เปรียบ โค้ชจะศึกษาจุดอ่อนตอนที่เราลงแข่งแล้วนำจุดอ่อนไปแก้ไข พัฒนาไปเรื่อยๆ
อยากติดทีมชาติ ตอนนี้ที่ทำได้คือต้องพยายามแก้ไขจุดอ่อนของตัวเองให้ดีที่สุด ปีหน้าต้องลงแข่งในรุ่นอายุ 13 ซึ่งถือว่าต้องปีนรุ่น ฝันอยากอยู่ในอันดับ 7-8 ต้องเข้ารอบลึกๆ ให้ได้
น้องมัทนา เหมรัชตานันท์ อายุ 11 ขวบ ชั้นป.6 โรงเรียนอนุราชประสิทธิ์ จากสโมสรบางโพ เล่าว่า เริ่มเรียนเมื่ออายุ 4 ขวบ คุณแม่พามาออกกำลังกาย แล้วเริ่มชอบตอนอายุ 6 ขวบ ได้แชมป์ตอนอายุ 9 ขวบ ตอนนี้อยู่มือวาง 3 ประเภทเดี่ยว และมือวาง 1 ประเภทคู่ ในรุ่น 11 ขวบ
ด้วยความที่เป็นคนตัวสูงในกีฬาแบดมินตันจะได้เปรียบกว่า จุดที่ทำให้ ชอบกีฬานี้คือได้ผ่อนคลาย ทั้งชอบการแข่งขันด้วย สนุกดี แพ้ก็ไม่ท้อ ร้องไห้แล้วก็หายกัน เอาใหม่ โค้ชมักจะบอกว่าแพ้แล้วให้เอาใหม่ โอกาสมีมาได้หลายครั้ง
คุณแม่เองสนับสนุนเต็มที่ เคยพาไปวิ่ง คุณแม่ก็วิ่งด้วย คุณแม่มักจะพูดว่าถ้าสู้แล้วแพ้ไม่เป็นไร
โค้ชเป็นผู้ให้และผู้วางแผนที่ดี จะเขียนโปรแกรมการฝึกซ้อมให้ในแต่ละวันและล่วงหน้าไว้ให้ซ้อม เมื่อมีการแข่งขันโค้ชมักให้จดและเขียนทั้งข้อดีและข้อเสียของเราอยู่เสมอ
การที่เราได้เรียนรู้ทั้งข้อดีและข้อเสียของเรา และรู้จากคนอื่นๆ เป็นการ พัฒนาตัวเอง ที่นี่สอนให้เรารักกันเป็นทีม มีระเบียบวินัย
ความฝันอยากเป็นแชมป์โลก พยายามทำให้ดีที่สุด เต็มที่กับมัน เมื่อลงแข่งแล้วต้องทำให้เต็มที่ แล้วหนูจะไม่เสียใจเลย
น้องทักษ์ดนัย บุญรอด วัย 13 ปี ชั้นม.2 โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี จากสโมสรบ้านทองหยอด มือวางอันดับ 2 บอกว่า เริ่มเข้ามาเล่นตอนอายุ 8 ขวบ ตอนนั้นต้องการมาเรียนเพื่อออกกำลังกาย แต่พอเล่นไปเล่นมาก็เริ่มชอบและสนใจ จึงเริ่มแข่งขัน จนได้แชมป์ตอนอายุ 9 ขวบ
โค้ชมุ่งเน้นให้เด็กเริ่มต้นและค่อยเป็นค่อยไป ฝึกเรียนรู้ มีความรัก สามัคคี และความเป็นทีมที่ต้องเข้าใจกัน
มีการปล่อยลูกเต็มคอร์ตซึ่งเหนื่อยมาก แต่ต้องอดทนและสู้ และมีน็อก เกอร์มาตีเสริมให้ 1 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น
ความหวังของเราคือการเป็นที่หนึ่งให้ได้ ไม่รีบ ต้องใจเย็น มีสติ และนิ่ง
ที่มา : ขอขอบคุณ หนังสือพิมพ์ข่าวสด
|
|
แสนดีเจริญรุ่งเรือง
2009-11-07 19:26:09 124.121.175.**
stat :
291 posts ,
0 replys
|