น่าน ดินแดนล้านนาตะวันออก
แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง
เกริ่นเมืองน่าน
สุดปลายฟ้าล้านนาตะวันออก เมืองแห่งความบริสุทธิ์ของธรรมชาติและพื้นป่าอันอุดมสมบูรณ์ แม้วันเวลาจะผ่านไปหลายศตวรรษก็ยังคงไว้ซึ่งดินแดนอันสงบและมีเอกลักษณ์แห่งศิลปวัฒนธรรมของผู้คนที่คงเสน่ห์ และดึงดูดใจนักท่องเที่ยวเสมอมา มนต์เสน่ห์ความเรียบง่าย วัดวาอารามที่เก่าแก่ ที่มีอยู่แทบทุกมุมเมือง แสดงถึงความศรัทธาและยึดมั่นในพระพุทธศาสนามาอย่างยาวนาน
10 สุดยอดท่องเที่ยวธรรมชาติ น่าน
1.ตื่นตาธรรมชาติ ดอยภูคา มหัศจรรย์ของธรรมชาติ
ยอดดอยภูคานั้นถือได้ว่าเป็นยอดเเขาสูงที่สุดในจังหวัดน่าน สูง 1,980 ม.จากระดับน้ำทะเลอีกทั้งยังมีสภาพป่าสมบูรณ์จึงได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ มีพื้นที่ ประมาณ 1,704 ตร.กม.มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจากมาย โดยเฉพาะพันธุ์ไม้หายาก ต้นชมพูภูคา นอกจากนี้ยังมี ต้นเต่าร้างยักษ์ พันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นของดอยภูคา
2.ชมพูภูคา หนึ่งเดียวในโลก
ชมพูภูคา เป็นพืชหายากใกล้สูญพันธุ์ที่มีดอกอมขาวงดงาม ต้นไม้พันธุ์หายากที่ใกล้สูญพันธุ์ของโลก ซึ่งปัจจุบันมีรายการการค้นพบในโลกเพียงที่เดียวคือที่อุทยานแห่งชาติภูคา สำหรับ ดอกชมพูภูคา จะออกดอกเบ่งบานราะหว่างเดือน กุมภาพันธ์ - มีนาคม
3.ชิมเกลือ บนดอยสูง มหัศจรรย์ บ่อเกลือ
ชาวบ้านที่บ้านบ่อหลวง ทำการต้มเกลือสินเธาวน์มาตั้งแต่โบราณหลายร้อยปีมาแล้ว จากหลักฐานทางธรณีวิทยาระบุว่าเมื่อหลายปีก่อนบริเวณนี้เคยเป็นทะเล
4.ต้นดิกเดียม วัดปรางค์
วัดปรางค์ อำเภอปัว จ.น่าน ต้นไม้ประหลาดต้นนี้เป็นต้นไม้อารมณ์ขัน ใบไม้จะไหวสั่นทุกครั้ง ที่ถูกคนสัมผัส ต้นดิกเดียม คำว่า "ดิกเดียม"เป็นภาษษของคนในภาคเหนือโดยเฉพาะชาวจังหวัดน่าน ซึ่งแปลว่า "จักจี้" ฉะนั้น ต้นดิกเดียมจึงหมายถึง ต้นจักจี้
5.แอ่วน้ำออกรู ภูสันเจริญ
น้ำออกรู เป็นธารน้ำไหลแรงมากพุ่งออกมาจากช่องเขาตลอดทั้งปี โดยไม่ทราบที่มาของน้ำว่ามาจากไหน เป็นน้ำที่ซึมซับมาจากภูเขา
6.โหด มัน ฮา ล่องแก่งน้ำว้า
น่านเปรียบเสมือนชุมชนคนต้นน้ำ ลำน้ำว้าเป็นสายน้ำที่มีความยาวมีต้นน้ำมาจากทิวเขาหลวงพระบางบริเวณ ชายแดนไทย - ลาว "ล่องแก่งตอนกลาง" ที่สุดของสายน้ำสำหรับการ ล่องแก่ง ของเมืองไทย ด้วยความยาวกว่า 80 ก.ม.เป็นการล่องแก่งแพยางท่ามกลางสายน้ำอันเชี่ยวกรากและมีเกาะแก่งตั้งแต่ระดับ 1 ถึง 5+ ตามมาตรฐานสากลกว่า 100 แก่ง
7.หมู่บ้านประมงปากนาย
หมู่บ้านเล็กๆชาวบ้านอพยพมาจากหลายแห่งหลังจากที่เขื่อนสิริกิตย์กั้นขวางลำน้ำน่าน จนกลายเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยแพของชาวประมงที่มีอาชีพหาปลา ด้วยทัศนียภาพที่งดงามของสายน้ำรวมถึงอาหารจากปลาที่สดใหม่
8.มหัศจรรย์ธรรมชาติ เสาดิน นาน้อย
เสาดินนาน้อย เกิดจากการกัดเซาะพังทลายของดินเป็นบริเวณกว้างกว่า 20 ไร่ ลักษณะคล้่ายแพะเมืองผีของจังหวัดแพร่ ที่เที่ยวเหมาะสำหรับนักนิยมธรรมชาติโดยเฉพาะเรื่องธรณีวิทยาทั้ง เสาดินนาน้อยและคอกเสือ รูปร่างแปลกตาอย่างน่านอัศจรรย์ เสาดินและหุบผาที่ถูกกัดกร่อนจากธรรมชาติ แหว่งเว้าเป็นรูปทรงต่างๆ
9.วิถีชายแดน ด่านห้วยโก๋น - น้ำเงิน
ด่านชายแดนที่ฝั่งตรงข้ามของไทย คือเมืองเงิน แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว ในวันเสาร์ครึ่งวันเช้าจะติดตลาดนัด มีสินค้าพื้นเมืองหลายอย่างให้เลือกชม ใครจะข้ามไปเที่ยวเมืองเงิน ของลาว ก็น่าสนใจไม่น้อย
10.แอ่วผาชู้ ดูทะเลหมอก อุทยานแห่งชาติศรีน่าน
ผาชู้ ตั้งอยู่ในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีจุดชมวิว และจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือทะเลหมอกอย่างงดงาม
ผ่อเมืองน่าน
วัดภูมินทร์
สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๑๓๙ โดยเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ สร้างขึ้นหลังจากครองนครน่านได้ ๖ ปี ความงดงามหรือจุดเด่นของวัดภูมินทร์ที่เป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทยคือเป็นวัดที่สร้างทรงจตุรมุขที่ดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพยานาค ๒ ตัว ภายในพระอุโบสถ ประดิาฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่สี่องค์ ประทับนั่งบนฐานชุกชี หันพระพักตร์ออกด้านประตูทั้งสี่ทิศ เบื้องพระปฤษฎางค์ชนกัน ผนังทั้งสี่ด้านมีภาพจิตรกรรมฝาผนังหรือ "ฮูบแต้ม"ศิลปไทยลื้อที่เล่าเรื่องชาดก ตำนานพื้นบ้าน และวิถีชีวิตคนเมืองในสมัยนั้น
วัดพระธาตุแช่แห้ง
เป็นปูชนิยสถานที่สำคัญของจังหวัดน่าน มีอายุกว่า ๖oo ปี ประดิษฐานอยู่ที่วัดแช่แห้งตามพงศาวดารเมื่องน่านกล่าวว่าพญาการเมืองโปรดให้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระธาตุที่ได้มาจากเมืองสุโขทัยระหว่าง พ.ศ. ๑๘๙๗ - ๑๙o๒ องค์เจดีย์บุด้วยทองเหลืองหรือทองจังโก ลงรักปิดทองตลอดทั้งองค์ มีงานนมัสการพระบรมธาตุเป็นประจำทุกปีระหว่างวันขึ้น ๑๑ ค่ำ ถึง ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ทางเหนือ โดยนับทางจันทรคติซึ่งจะอยู่ในราวปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือประมาณเดือนมีนาคมทุกปี
วัดมิ่งเมือง
เป็นที่ตั้งของเสาพระหลักเมืองน่าน สิ่งที่่เด่นสะดุดตาคือ ศาลาจัตุรมุขลวดลายปูนปั้นสีขาวอันวิจิตรตระการตา มียอดพรหมสี่หน้าเป็นตัวอาคารประดิษฐานศาลหลักเมือง ถัดเข้าไปเป็นโบสถ์ของวัด ภายในมีจิตรกรรมประวัติความเป็นมาของเมืองน่านตั้งแต่ราชวงศ์ภูคามาจนถึงปัจจุบัน
วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร
เดิมชื่อ วัดหลวงกลางเวียง เจ้าผู้ครองนครน่าน พญาภูเข่ง เป็นผู้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๑๙๔๙ พระวิหารหลวงวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร
เป็นวิหารขนาดใหญ่รูปทรงตามสถาปัตยกรรมแบบล้านนา พระธาตุเจดีย์ช้างค้ำวรวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุไว้ภาย
ในนับเป็นปูชนียสถานสำคัญรูปทรงองค์พระเจดีย์ได้รับอิทธิพลทางด้านศิลปะสุโขทัย
เส้นทางไปเที่ยวน่าน
รถยนต์
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 32 มาจนถึงจังหวัดนครสวรรค์ จากนั้นใช้เส้นทาง 117 มาจนถึงจังหวัดพิษณุโลกและใช้เส้นทางหมายเลข 11 โดยจะผ่านจังหวัดอุตรดิตถ์ และอำเภอเด่นชัย (จังหวัดแพร่) จากเด่นชัยใช้ทางหลวงหมายเลข 101 ผ่านจังหวัดแพร่ไปจนถึงตัวจังหวัดน่าน รวมระยะทางประมาณ 668 กิโลเมตร
รถโดยสาร
สถานีขนส่งสายเหนือ ถนนกำแพงเพชร 2 (หมอชิต 2) มีรถโดยสารประจำทางทั้งรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศไปจังหวัดน่านทุกวัน ติดต่อ บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร. 537-8055 และมีบริษัทเอกชนหลายแห่งที่บริการเดินรถไปจังหวัดน่าน ติดต่อ แพร่ทัวร์ โทร. 245-2369, 245-1697 และ 936-3720 สมบัติทัวร์ โทร. 936-2495-6 และ (054) 710122 เชิดชัยทัวร์ โทร.(054) 710362
รถไฟ
จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ(หัวลำโพง) ไปลงที่อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ แล้วจึงต่อรถโดยสารประจำทางมาที่จังหวัดน่าน 142 กิโลเมตร รายละเอียดติดต่อหน่วยบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 223-7010, 223-7020